วัดใหม่อมตรส

Header Image2
แผนที่วัด
1
2
3
4
5
6

กรุณาคลิกที่หมายเลขบนแผนที่เพื่อดูข้อมูลของสถานที่ต่างๆ

อาคารวิปัสนาอมตมงคลรังสี

Sala1 Image

เกิดขึ้นโดยความดำริของ พระครูพิพัฒนานุกูล เจ้าอาวาสวัดใหม่อมครสบางขุนพรหม มีความประสงค์ที่จะเผยแพร่ธรรมะและอบรมการเรียน
วิปัสสนาให้แก่ญาติโยมที่เข้าวัด สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางศาสนา (ปฏิบัติธรรม วิปัสสนา) เป็นที่จัดแสดงประวัติ วัตถุสำคัญของวัด และพื้นที่จัดแสดงเชิงพิพิธภัณฑ์มาปฏิบัติธรรม จึงได้มอบหมายให้ นายช่างประเสริฐอรชร นายช่างผู้มีผลงานในการเขียนแบบอาคารทรงไทย และการก่อสร้างอาคาร ทั้งฝีมือการปั้นลวดลาย ตกแต่ง เป็นที่ประจักษ์ จึงได้แบบเป็นอาคารทรงไทย 3 ชั้น มีมุขด้านหน้า และเหนือสันหลังคาด้านบนมีเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ซึ่งจำลองรูปแบบเหมือนกับเจดีย์องค์ด้านล่าง เป็นสัญลักษณ์คู่วัดมาตั้งแต่สมัย สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)ที่ได้บรรจุพระผงพิมพ์สมเด็จฯ ไว้ภายในองค์เจดีย์องค์นี้ ที่เรียกกันว่า "พระสมเด็จ กรุบางขุนพรหม" อันเป็นพระสมเด็จที่ให้รับความนิยมอย่างสูงในทุกวันนี้อาคารหลังนี้เป็นอาคารคอนกริตเสริมเหล็ก 3 ชั้น ขนาดกว้างรวม 14 เมตร ยาว 24 เมตร โดยแบ่งพื้นที่ส่วนกลางของอาคารกว้างถึง 4 เมตรไม่มีเสากลาง มาบดบังทัศนียภาพ ในการใช้พื้นที่เพื่อประกอบศาสนกิจต่าง ๆ การก่อสร้างอาคารหลังนี้ ได้เจาะเสาเข็มฤกษ์ตันแรก

เมื่อวันที่21 มีนาคม พ.ศ.2556 โดยมี พระเทพ สิทธิโกศล เจ้าอาวาสวัดพลับพลาชัย เป็นประธานที่ปรึกษาในการก่อสร้าง และพระครูพิพัฒนานุกุล เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส เป็นผู้บวงสรวงและอำนวยการก่อสร้าง อาคารอมตมงครังสี เป็นอาคารหลังคาทรงไทยที่มีความสวยงาม โดยการสร้างให้หลังคามีการแบ่งตัวตามลักษณะของเรือนไทย ซึ่งมีความอ่อนร้อยสวยงามผนังด้านหน้ามุขชั้น พระครูพิพัฒนานุกูล ได้ปั้นพระพิมพ์สมเด็จฯ องค์ใหญ่ (ใหญ่ที่สุดในประทศ) โดยใช้ผงบางขุนพรหมเหมือนกับการทำพระผงสมเด็จฯ ของวัดทุกรุ่น โดยวิธีการคำผงเนื้อพระกับน้ำมันตังอิ้วหน้าบันด้านทิศเหนือและทิศใต้ มีลายปั้นปูนลอยตัวสวยงามยิ่งนัก มีอักษรย่อ (อ-ม-ต มาจากชื่อวัดใหม่อมตรส)


ชั้นที่ 1 เพื่อใช้อเนกประสงค์ อาทิการทำบุญในวันปกติ หรือในวันพระ ฯลฯ

ชั้นที่ 2 เพื่อใช้ในการอบรม เผยแผ่ธรรมะ และการเรียนวิปัสสนาเป็นที่ตังรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หน้าตัก 34 นิ้ว

ชั้นที่ 3 บนสุด เป็นที่ตั้งของ"พระพุทธอมคมงคลรังสีทรงเครื่องจักรพรรดิ" หน้าตัก 69 นิ้ว ใต้โดมเหนือฝ้าเพดาน ตรงแนวศูนย์กลางขององค์เจดีย์ที่บรรจุพระสาร์วิกธาตุ และภายใต้โคมได้เขียนภาพจิตรกรรมของจักรวาล สวรรค์ขั้นต่าง ๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ในพระไตรปิฎก ในส่วนอื่นของผนังอาคารบนชั้น 3 นี้ บริเวณมุมด้านหน้าอาคารให้เขียนภาพจิตรกรรมฝ่าผนังเรื่องราวของวัดใหม่อมตรส ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ สมเด็นพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ในการที่สมเด็จฯ มาเป็นประธานในการทำพระผงพิมพ์สมเด็จฯ การปลุกเสก การบรรจุพระเข้าในองค์เจดีย์ จากภาพดังกล่าวยังเถ่าเรื่องการขโมยตกพระสมเด็จออกจากเจดีย์ จนถึงเมื่อปี พ.ศ.2500 จึงให้มีการเปิดกรุพระบางขุนพรหมอย่างเป็นทางการ

จากประวัติของวัดใหม่อมตรส ในปี พ.ศ.2519 มีการจัดสร้างพระผงพิมพ์สมเด็จฯ และบรรจุกลับคืนในองค์เจดีย์ โดยมี พระครูบริหารคุณวัตร (ชม) อดีตเจ้าอาวาสเป็นผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด แสดงพระผงสมเด็จฯ พระบูชา แต่ละปี พ.ศ.ที่ทางวัดจัดสร้างไว้ให้ผู้สมใจศึกษาได้เข้าเยี่ยมชม

วิหารเจดีย์

JD Image

เจดีย์องค์นี้มีรูปทรงสัญฐานอย่างนี้มาแต่เดิม มีพระสมเด็จบรรจุอยู่ที่เรียกว่า "กรุบางขุนพรหม" เนื่องด้วยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์
(โต พรหมรสี) ท่านมีความเจริญมั่นคงในทางปฏิบัติได้วิปัสสนาญาณมือนาคดังสญาณเป็นเยี่ยม กิตติศัพท์ขจรไปทั่งสารทิศ จึงทำให้ที่นี่ได้รับบารมีสมเด็จฯ เมื่อครั้งที่สมเด็จฯ มาพักอยู่ที่ศาลาเก่า (ปัจจุบันนี้เป็นปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนสามเสน)เพื่อสร้างองค์หลวงพ่อโตวัดอินทรวิหาร เสมียนตราด้วง ต้นดระกูลธนโกเศศได้ซ้อมองค์เจดีย์นี้ เสร็จแล้วได้สร้างพระพิมพ์ผงโดยสูตรเจ้าประคุณสมเด็จฯ
มีผสมผง อิธเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห มหาราช ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เป็นประธานปลุกเสกตลอดงาน แล้วบรรจุไว้ในเจดีย์นี้ เมื่อปี พ.ศ.2415 จำนวน 84,000 องค์ (เท่าจำนวนพระธรรมชันธ์)


เมื่อปี พ.ศ.2436 ได้เกิดกรณีพิพาทดินแดน ฝรั่งเศสส่งเรือรบปิดอ่าวไทย ผู้ที่จะออกศึกสงครามจึงต้องแสวงหาของดีไว้ป้องกันตัว จึงมาตกเบ็ดที่ปล่องช่องลมของเจดีย์นี้เพื่อนำพระสมเด็จไปติดตัว ซึ่งทำให้เกิดอภินิหารต่างๆ ทรงไว้ซึ่งความศักด์สิทธิ์ มีอานุภาพเป็นเดชเป็นอำนาจ เมตตามหาลาภ รักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายเป็นที่ปรากฏแก่ผู้ที่นำไปสักการะบูชา

ต่อมาการตกพระไม่ได้ผลก็มีการลักลอบขุดเจดีย์บ่อยครั้ง ทำให้องค์เจดีย์ชำรุดจึงได้ทำการเปิดกรุ เมื่อ พ.ศ.2500 โดยพระครูบริหารคุณวัตรอดีตเจ้าอาวาสองค์ที่แล้ว เป็นผู้อำนวยการเปิดกรุ ให้สาธุชนนำไปสักการะบูชาเมื่อปี พ.ศ.2509 นำชิ้นส่วนที่ชำรุดแตกหักจำนวนมากมาผสมสร้างขึ้นใหม่ และนำเข้าบรรจุไว้ในองค์เจดีย์แทนรุ่นเก่า พร้อมทั้งประดิษฐานรูปหล่อองค์สมเด็จ ไว้ที่องค์พระเจดีย์ เป็นการสร้างพระผงรุ่นแรกของวัด และนำผงจากการเปิดกรุนี้ที่เหลือมาผสมสร้างพระผงรุ่นต่อ ๆ มาถึงปัจจุบัน

ศาลา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

Sala2 Image

เป็นศาลาที่สร้างขึ้นเพื่อ เป็นที่ระลึกและเคารพสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างพระสมเด็จและพัฒนาวัดใหม่อมตรส
เป็นสถานที่สักการะของประชาชนหรือญาติโยมมักมาสักการะ ขอพร หรือระลึกถึงคุณงามความดีของสมเด็จโต และวางเครื่องสักการะ เช่น ดอกไม้ ธูป เทียน เพื่อแสดงความเคารพ
ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มีการจัดทำบุญประจำปี หรือพิธีมงคล เช่น ทำบุญอุทิศส่วนกุศล ศูนย์เรียนรู้และเผยแพร่ประวัติสมเด็จโตโดยภายในศาลามักมีป้ายหรือภาพประวัติ การสร้างพระสมเด็จ และการพัฒนาวัด

เมรุ

meru Image

เมรุของวัดใหม่อมตรสไม่มีข้อมูลการสร้างที่ชัดเจน แต่มีการบูรณะหลายครั้ง โดยมีสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี), เสมียนตรา (ด้วง) ธนโกเศศ และเครือญาติเป็นผู้ดำเนินการ
มีการจัดสร้าง พระสมเด็จ หลายรุ่น เพื่อระดมทุนสำหรับการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ภายในวัด หนึ่งในนั้นคือ เมรุ (ฌาปนสถาน) ตัวอย่างเช่น รุ่นหนึ่งใน พ.ศ.2539 ได้จัดสร้างพระสมเด็จเพื่อระดมปัจจัย “ก่อสร้างฌาปนสถาน (เมรุ)”

อุโบสถ

Ubo Image

พระอุโบสถของวัดใหม่อมตรส (วัดบางขุนพรหม) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2501 โดยเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางที่นิยมในพระอุโบสถของวัดไทยทั่วไป พระพุทธรูปปางมารวิชัยในพระอุโบสถของวัดนี้มีชื่อว่า
“พระพุทธอมตโลกนาถ” ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ การสร้างพระอุโบสถและการประดิษฐานพระประธานในปางมารวิชัยมีความเชื่อมโยงกับความศรัทธาและความตั้งใจของชุมชนในพื้นที่ที่ต้องการสร้างสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและการปฏิบัติธรรม พระประธานในปางมารวิชัยเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้าที่ทรงเอาชนะมาร และบรรลุธรรมสำเร็จ การประดิษฐานพระพุทธรูปในปางนี้จึงเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมและการเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิต

โรงเรียนวัดใหม่อมตรส

school Image

โรงเรียนวัดใหม่อมตรสเป็นโรงเรียนประถมศึกษา ตั้งอยู่ที่ 132 ถนนสามเสน 8 แขวงบ้านพานถม สำนักงานเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
มีเนื้อที่ 1 ไร่ 32 ตารางวา ขุนเจริญราษฎร์บริบาล นายอำเภอนางเลิ้ง เป็นผู้จัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2476 เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นเด็กเล็กจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เดิมเป็นโรงเรียนไม้ชั้นเดียวอยู่ติดกับศาลาวัด

ต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้ให้เงินงบประมาณสร้างโรงเรียนถาวรเป็นเรือนไม้สองชั้นกว้าง 6 เมตร ยาว 27 เมตร มีมุข สร้างเสร็จเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2496 เปิดทำการสอน เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2499
โรงเรียนได้โอนเป็นเทศบาลตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2506 เปิดทำการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 ในปีพ.ศ.2504 พ.ศ.2505 และ พ.ศ.2506 ตามลำดับ
และยุบชั้นเด็กเล็กเพราะเป็นชั้นที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์บังคับ พ.ศ. 2518 ได้รับงบประมาณสร้างอาคารเรียนเป็นตึก 4 ชั้น เป็นเงิน 2,800,000 บาท มี 12 ห้องเรียน ชั้นล่างเปิดโล่ง เปิดเรียนเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2519

ต่อมาได้งบประมาณสร้างบ้านพักภารโรง 1 หลัง 2 ห้องนอน ชั้นล่างเป็นห้องน้ำนักเรียน 8 ห้อง สร้างเสร็จมอบงาน เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2520 ในปีพ.ศ. 2520 ท่านพระครูบริหารคุณวัตร เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรสได้สร้างอาคารสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เป็นตึก 4 ชั้น มี 6 ห้องเรียน ชั้นล่างเป็นห้องโถงมีห้องน้ำสำหรับครู 2 ห้อง งบประมาณสร้าง 1,300,000 บาท สร้างเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 แล้วเสร็จเรียบร้อย เปิดเรียนได้ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2521 และวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2527 เปิดทำการสอนชั้นเด็กก่อนประถมศึกษาตามนโยบายกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันทำการสอนตั้งแต่ระดับปฐมวัยถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6


ข้อมูลเพิ่มเติม: https://bemis.bangkok.go.th/schoolandcourse/3110010111/info
Facebook page: https://www.facebook.com/watmaimamtarod/